วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เตาฮีด สร้างความแตกแยก?


- เตาฮีด สร้างความแตกแยก?-
- เชค ศอลิหฺ เฟาซาน อัลเฟาซาน หะฟิศอฮุลลอฮฺ -

อะไรคือคำตักเตือนของท่าน สำหรับผู้ที่กล่าวว่า
อัตเตาฮีด ทำให้ ประชาชน แตกแยก และ เขากล่าวว่า เราทำให้รวมกันก่อน
หลังจากนั้นค่อยสอนความรู้ให้ผู้คน ???

นี่มาจาก ผู้ที่ตาบอดอย่างชัดเจน
เตาฮีด คือ สิ่งที่ทำให้ประชาชาตินั้นรวมเข้าด้วยกัน โอ้ พี่น้องของฉัน
ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ประชาชาติรวมกันได้ เว้นแต่ ภายใต้ คำว่า
"ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮฺ"
ก่อนการมาของท่านรอซูล และ การดะอฺวะฮฺ ไปสู่ คำว่า
"ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮฺ" พวกเขาเป็นผู้ที่แตกแยกกัน และเป็นผู้ที่เผชิญหน้ากัน
พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า
"ขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน แล้วพระองค์ได้ทรงทำให้หัวใจของพวกเจ้า
มีความสนิทสนมกันและพวกเจ้าก็กลายเป็นพี่น้องกันด้วยความเมตตาของพระองค์ "
(อาละอิมรอน:103)

ดังนั้นสิ่งซึ่งทำให้ประชาชาตินี้รวมกัน ก็คือ เตาฮีด
การอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว ไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์

และ ชิริก(การตั้งภาคี)และ บิดอะฮฺ(อุตริกรรม) ต่างหากที่ ทำให้ประชาชาตินี้แตกแยก
และ มัซฮับแนวทางที่หลงผิด และมันฮัจญ์ ของ
การดะอฺวะฮฺต่างๆ ซึ่งพวกเขาได้ตั้งชื่อให้มัน
มันคือสิงที่ทำให้ประชาชาตินี้แตกแยกจากทางของอุมมะฮฺวาฮิดะฮฺ
(ประชาชาติหนึ่งเดียว)และมันฮัจญ์ที่เป็นหนึ่งเดียว

สิ่งซึ่งทำให้ประชาชาตินี้แตกแยก คือ ชิริก และการใช้สื่อต่างๆที่เป็นชิริก
และมันฮัจญ์ของพวกบิดอะฮฺ และ พวกอุตริกรรม ทั้งสองนั้น(ชิริกและบิดอะฮฺ)
สำหรับมันมี มันฮัจญ์ และเขาก็กล่าวว่า
เป็นมันฮัจญ์ ของการดะอฺวะฮฺ...!!!
มันฮัจญ์ขของการดะอฺวะฮฺ คือ มันฮัจญ์ ของท่านรอซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
คือสิ่งซึ่ง ท่านต้องทำให้เขารักชอบมัน ไม่เว้นแต่ หัวหน้าของท่าน หรือ ผู้ติดตามของท่าน
* นะอัม

แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA
-------------------------------------------------------------------------------------
ما نصيحتكم لمن يقول: إن التوحيد يفرِّقُ الأمة, ويقول نُجمِّع أولاً ثُمَّ نُعلِّمُ النَّاس؟


هذا من عمى البصيرة, التوحيد هو الذي يُجمِّعُ الأُمة يا أخي, ما اجتمعت الأمة إلا تحت " لا إله إلا الله ", و قبل مجيء الرسول والدعوة إلى "لا إله إلا الله", وهم متفرِّقون يتقاتلون ويتناحرون,
[وكنتُم أعداء فألَّف بين قُلُوبِكُم وأصبحْتُم بِنِعْمَتِهِ اخوانًا]
فالذي يجمع الأمة هو التوحيد, عبادة الله وحده لا شريك له,
والشرك والبدع تُفرِّقُ الأُمة, و المذاهب الباطلة و المناهج الدعوية اللي يسمُّونها, هي التي فرقت الأمة,
سبيل الأمة واحد ومنهجها واحد
الذي فرَّق الأمة هو الشرك, ووسائل الشرك والمناهج المُبتدعة والمُحدثة, كلاً يجعل لهُ منهج ويقول منهج الدعوة!!, منهج الدعوة هو منهج الرسول – صلى الله عليه وسلم -, مو هو الذي تحبه أنت وإلا رئيسك أو إلا متبوعك, نعم.

الشيخ الفوزان -حفظه الله-

อย่าเป็นผู้หยิ่งผยอง ยะโสโอหัง

- เชค อับดุลอะซีซ บิน บาซ รอฮิมะฮุลลอฮฺ -

ตัฟสีร พระดำรัสของอัลลอฮฺ ที่ว่า
"เมื่อพวกพ้องของเขากล่าวแก่เขาว่า”อย่าได้หยิ่งผยอง เพราะแท้จริงอัลลอฮ
ไม่ทรงโปรดบรรดาผู้หยิ่งผยอง” (อัล-เกาะศ็อศ:76)

อายะฮฺนี้ อยู่ในเรื่องเล่าของ กอรูน
(ผู้ที่หยิ่งผยองอวดความร่ำรวย และปฏิเสธการจ่ายซะกาต และใส่ร้ายท่านนบีมูซาว่าทำซินา จนนบีมูซา อลัยฮิสลาม ได้รู้ความจริงจึงได้ขอให้อัลลอฮฺทรงลงโทษเขาด้วยการให้แผ่นดิน
สูบเขา และ ทรัพย์สินของเขา-ผู้แปล)

"เมื่อพวกพ้องของเขากล่าวแก่เขาว่า”อย่าได้หยิ่งผยอง เพราะแท้จริงอัลลอฮไม่ทรงโปรดบรรดาผู้หยิ่งผยอง” (อัล-เกาะศ็อศ:76)

และจุดประสงค์ของอายะฮฺดังกล่าว คือ การหยิ่งผยอง ยโสโอหัง
ซึ่งมันเเป็นความโอ้อวดและการข่มเหงต่อผู้คน และความเป็นศัตรู และความหยิ่งยะโส
นี่คือ สิ่งที่ถูกห้ามจากมัน ความหยิ่งผยอง ความยะโส ความโอ้อวด
ส่วน ความปลื้มปิติ ด้วยกับการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ และด้วยความเมตตา
และความโปรดปราน และความดีงามของพระองค์นั้น
คือ สิ่งที่เป็นบทบัญญัติ ดังที่ อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้ว่า

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮ์ และด้วยความเมตตาของพระองค์ ดังกล่าวนั้นพวกเขาจงดีใจเถิด ซึ่งมันดียิ่งกว่าสิ่งที่พวกเขาสะสมไว้"(ยูนุส -58)

ดังนั้นผู้ศรัทธานั้นจะดีใจ ที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานฮิดายะฮฺให้เขามาสู่ศาสนาอิสลาม
และแท้จริงอัลลอฮฺ ทรงช่วยเหลือเขาบนการละหมาดญะมาอะฮฺ
และแท้จริงอัลลอฮฺได้ทรงช่วยเหลือเขาบนการทำดีต่อบุพการี
และ ความสัมพันธ์กับเครือญาติของเขา และช่วยเหลือเขา บน การทำความดี
นี่คือสิ่งที่เป็นบทบัญญัติ เป็นการสมควรสำหรับผู้ศรัทธาที่จะต้องดีใจ
ด้วยกับสิ่งดังกล่าว และยินดี ด้วยกับสิ่งดังกล่าว

ทว่าจำเป็นบนผู้ศรัทธา ที่จะดีใจด้วยกับสิ่งดังกล่าว และมีความสุขด้วยกับสิ่งนี้
และ สรรเสริญอัลลอฮฺ บนสิ่งดังกล่าว
ส่วนการดีใจ ที่ถูกตำหนิ คือ การดีใจซึ่ง มีความโอ้อวดและ ความโอหัง
และความยะโส และการเหยียดหยามผู้คน สิ่งนี้คือสิ่งที่ถูกตำหนิ
แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA

การแสวงหาความรู้

- การแสวงหาความรู้ ทางชารีอะฮฺ -
-เชค อับดุลอะซีซ บิน บาซ รอฮิมะฮุลลอฮฺ-

ด้วยกับอะไรที่ นักศึกษาผู้แสวงหาความรู้ ชาย และ หญิง
ที่ให้พวกเขาได้หันไปหา เพื่อทำให้เพิ่มขึ้นจากความรู้ทางชะรีอะฮฺ ?

เราขอสั่งเสียงทั้งหมด ด้วยการเอาใจใส่ กับ การแสวงหาความรู้ทาง
ชะรีอะฮฺ , การทำความเข้าใจ ด้วยกับ อัลกุรอาน และ สุนนะฮฺ
และ การถาม จากสิ่งที่คลุมเคลือ และเมื่อ เขาเรียนรู้ เรื่องราวอื่นๆพร้อมกับสิ่งนี้
ในเรื่องราวต่างๆของโลกดุนยา ดังนั้น มันไม่เป็นไร(อนุญาต)
แต่ทว่า เขาต้องให้ความสำคัญ ในการทำความเข้าใจในเรื่องของศาสนา
ท่านนบีย์ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
"ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้เขาพบกับความดีงาม
พระองค์จะทรงทำให้เขาเข้าใจใน ศาสนา"
และท่านรอซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวอีกว่า
"ผู้ใดที่แสวงหาเส้นทางสู่การแสวงหาความรู้ อัลลอฮจะทรงทำให้ง่ายดายสำหรับเขา
ซึ่งเส้นทางสู่สวนสวรรค์"
แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA

อัศศิรอฏ๊อลมุสตะกีม

ความหมายของ "อัศศิรอฏ๊อลมุสตะกีม" (ทางอันเที่ยงตรง)
-คณะกรรมการถาวรเพื่อการวิจัยทางวิชาการและฟัตวา-

ถาม:ฉันต้องการู้ถึงความหมายของ "อัศศิรอฏ๊อลมุสตะกีม" ,จากผู้ซึ่งอัลลอฮฺทรง
กรุณาเมตตาบนพวกเขา ด้วยกับ ทางสายนี้
และอะไรคือ ความหมายของคำว่า "อามีน"ในซูเราะฮฺ อัลฟาติหะฮฺ?

ตอบ:ความหมายของ"อัศศิรอฏ๊อลมุสตะกีม"
คือ หนทางที่ชัดเจน ซึ่ง ไม่มีความคดเคี้ยวในมัน
ดังที่บางคนกล่าวว่า:คือ ศาสนา อิสลาม, และบ้างก็กล่าวว่า:คือ
ท่านนบีย์ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และ ทุกๆสิ่งที่เป็นสัจธรรม
ดังนั้นหากผู้ใดที่ปฏิบัติตามท่านนบีย์ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม
แน่นอนเขาได้ปฏิบัติตาม ศาสนาอิสลาม
และผู้ใดที่ปฏิบัติตาม ศาสนาอิสลาม แน่นอนเขาได้ปฏิบัติตาม อัลกุรอาน
และผู้ซึ่ง อัลลอฮฺได้ทรงกรุณาเมตตา บนพวกเขา
ท่าน อิบนุกะษีร ได้กล่าวไว้ใน ตำราตัฟสีรของเขาว่า:ท่านฎิฮากได้กล่าวว่า
จากท่าน อิบนุ อับบาส :
หนทาง ซึ่ง ได้ทรงกรุณาเมตตาบนพวกเขา ด้วยกับ การเชื่อฟังของท่าน
และการอิบาดะฮฺของท่าน ที่มาจาก บรรดามะลาอิกะฮฺของท่าน
และจากบรรดานบีย์ของท่าน และบรรดาผู้สัตย์จริง
และบรรดาผู้ชะฮีด และบรรดาผู้ประพฤติดีทั้งหลาย
และดังกล่าว พิจรณาได้ถึงสิ่งที่ พระผู้อภิบาลของเราได้ตรัสไว้ว่า

"และผู้ใดที่เชื่อฟังอัลลอฮฺ และร่อซูลแล้ว ชนเหล่านี้จะอยู่ร่วมกับบรรดา
ผู้ที่อัลลอฮฺทรงกรุณาเมตตาแก่พวกเขา อันได้แก่บรรดานบีย์
บรรดาผู้ที่เชื่อโดยดุษฏี บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี
และชนเหล่านี้แหละเป็นเพื่อนที่ดี"(อันนิสาอฺ:69)

และความหมายของคำว่า "อามีน":คือ ขออัลลอฮฺทรงตอบรับด้วยเถิด

وبالله التوفيق وصلى الله على نبينامحمدوآله وصحبه وسلم
แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA

ตัฟสีรอายะฮฺอัลกุรอาน

ตัฟสีร พระดำรัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ว่า:
"และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้า”
ดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ"
(อัล-กะฮฺฟฺ :29)

การอธิบายที่ถูกต้องสำหรับอายะฮฺดังกล่าว คือ:
แท้จริง อัลลอฮฺ ตะอาลา คำกล่าวของพระองค์ที่ทรงกล่าวแก่ ท่านนบีย์
ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ว่า : จงกล่าวเถิด โอ้มุฮัมมัด สำหรับพวกเขาเหล่านั้น
ซึ่งหัวใจของพวกเขาได้หลงลึมเราจาก การรำลึกถึงเรา
และ พวกเขาได้ปฏิบัติตาม อารมณ์ของพวกเขา -
-โอ้บรรดามนุษย์ทั้งหลาย -
นี่คือสิ่งที่จำเป็นบนพวกท่านต้องปฏิบัติตาม นั่นคือ สัจธรรม
ซึ่ง ถูกประทานลงมายังฉัน จากผู้อภิบาลของพวกท่าน
และยังพระองค์ คือ การเตาฟีก(การช่วยเหลือให้ได้รับความสำเร็จ) และ
การทอดทิ้ง และด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ มี ทั้งการให้ทางนำ และ ความหลงผิด
พระองค์ทรงให้ทางนำ ผู้ใดที่ประสงค์จากพวกท่าน ที่จะได้รับการชี้นำ
ก็จงศรัทธา และพระองค์ จะทรงให้หลง ผู้ใดที่ประสงค์ออกจากทางนำ
ก็จงปฏิเสธ
ไม่มีมายังฉัน สักสิ่งหนึ่งจากสิ่งดังกล่าว
และไม่มีผู้ใดที่ปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกท่าน สักผู้หนึ่งที่มาจากผู้ปฏิบัติตาม สัจธรรม
และ(ผู้ที่ปฏิบัติตาม)ด้วยกับ อัลลอฮฺ และด้วยสิ่งที่ถูกประทานลงมาบนฉัน นั้น คือ ผู้ศรัทธา
ดังนั้นหากว่าพวกท่านประสงค์ พวกท่านก็จงศรัทธา และหากพวกท่านประสงค์
พวกท่านก็จงปฏิเสธ
แท้จริงหากพวกท่านได้ปฏิเสธ
แน่นอนอัลลอฮฺจะทรงเป็นศัตรูกับพวกท่าน
บนการปฏิเสธของพวกท่าน ด้วยกับมันนั้น คือ ไฟนรก
กำแพงของมันจะล้อมรอบพวกท่าน
และหากพวกท่านศรัทธาด้วยกับพระองค์ และปฏิบัติด้วยกับการเชื่อฟังพระองค์ ดังนั้นแท้จริงสำหรับพวกท่าน ผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ ได้ทรงยกย่อง สำหรับ เหล่าบรรดาผู้ที่เชื่อฟังพระองค์

และไม่ใช่จุดประสงค์จากสิ่งนี้ ที่เป็น การอนุมัติของอัลลอฮฺตะอาลา
ให้มีการปฏิเสธแก่ผู้ที่ประสงค์ และ การอีมานแก่ผู้ที่ประสงค์
หากแต่ว่ามันคือ การขู่ให้กลัว และการขู่สำทับ ที่ได้บ่งถึงบนสิ่งนี้
อัลลอฮฺตะอาลาได้ทรงกล่าวมันหลังจากจบอายะฮฺนี้ จากการขู่ด้วยการลงโทษที่รุนแรง
และสิ่งที่มาในอายะฮฺทั้งสองหลังจากมัน
จากการแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา ด้วยกับบรรดาสวนสวรรค์ที่สุขสบาย

จงกลับไปดูตำราตัฟสีร ของอิมาม อิบนุญะรีร อัฏฏอบรีย์ รอฮิมะฮุลลอฮฺ สำหรับอายะฮฺนี้
และ สองอายะฮฺหลังจากมันในซูเราะฮฺ อัลกะฮฺฟฺ
หรือ ตำราตัฟสีร อิบนุกะษีร และในทั้งสองตำรานี้เป็นที่เพียงพอแล้ว

وبالله التوفيق وصلى الله على نبينامحمدوآله وصحبه وسلم

-คณะกรรมการถาวรเพื่อการวิจัยทางวิชาการและฟัตวา-
----------------------------------------------------------------------
(ซูเราะฮฺ อัล-กะฮ์ฟฺ 29 - 31)

وَقُلِ الْحَقُّ مِن رَّبِّكُمْ ۖ فَمَن شَاءَ فَلْيُؤْمِن وَمَن شَاءَ فَلْيَكْفُرْ ۚ إِنَّا أَعْتَدْنَا لِلظَّالِمِينَ نَارًا أَحَاطَ بِهِمْ سُرَادِقُهَا ۚ وَإِن يَسْتَغِيثُوا يُغَاثُوا بِمَاءٍ كَالْمُهْلِ يَشْوِي الْوُجُوهَ ۚ بِئْسَ الشَّرَابُ وَسَاءَتْ مُرْتَفَقًا

และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ แท้จริง เราได้เตรียมไฟนรกไว้สำหรับพวกอธรรมซึ่งกำแพงของมันล้อมรอบพวกเขา และถ้าพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ ก็จะถูกช่วยเหลือด้วยน้ำเสมือนน้ำทองแดงเดือดลวกใบหน้า มันเป็นน้ำดื่มที่ชั่วช้าและเป็นที่พำนักที่เลวร้าย

إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ إِنَّا لَا نُضِيعُ أَجْرَ مَنْ أَحْسَنَ عَمَلًا

แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย เราจะไม่ให้การตอบแทนของผู้กระทำความดีสูญหายอย่างแน่นอน

أُولَٰئِكَ لَهُمْ جَنَّاتُ عَدْنٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهِمُ الْأَنْهَارُ يُحَلَّوْنَ فِيهَا مِنْ أَسَاوِرَ مِن ذَهَبٍ وَيَلْبَسُونَ ثِيَابًا خُضْرًا مِّن سُندُسٍ وَإِسْتَبْرَقٍ مُّتَّكِئِينَ فِيهَا عَلَى الْأَرَائِكِ ۚ نِعْمَ الثَّوَابُ وَحَسُنَتْ مُرْتَفَقًا

ชนเหล่านั้นแหละ สำหรับพวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์หลากหลายเป็นที่พำนัก มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่างของพวกเขา ในสวนสวรรค์พวกเขาจะได้ประดับกำไลทอง และสวมอาภรณ์สีเขียวทำด้วยผ้าไหมละเอียดและผ้าไหมหยาบนอนเอกเขนกบนเตียงใน สวรรค์ เป็นการตอบแทนที่ดียิ่งและเป็นพำนักที่ดีเยี่ยม


คณะกรรมการถาวรเพื่อการ
วิจัยทางวิชาการ การฟัตวา ประเทศ ซาอุดิอาระเบีย


แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA

ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮฺ


-เชค มุฮัมมัด บิน ศอลิห์ อัลอุษัยมีน รอฮิมะฮุลลอฮฺ-

ถาม:คำว่า"ลาอิลาฮะอิ้ลลั้ลลอฮฺ"เป็นคำที่คลอบคลุมบนประเภทของเตาฮีดทั้งหมดได้อย่างไร..?

ตอบ: มันได้ถูกทำให้คลอบคลุมทุกประเภทของเตาฮีดทั้งหมด
บางประเภทด้วยการรวม และบางประเภทด้วยการมีอยู่
และดังกล่าวนั้น แท้จริงคำพูดของผู้ที่กล่าวว่า
"อัชฮะดุ อั้ลลา อิลาฮะ อิ้ลลั้ลลอฮฺ" นั้น
มันได้กลับไปยังความเข้าใจที่ว่า แท้จริงจุดประสงค์ด้วยกับมัน คือ
การให้เอกภาพของการอิบาดะฮฺ ซึ่งถูกเรียกว่า เตาฮีด อัลอุลูฮียะฮฺ
และถูกรวมอยู่ในมัน สำหรับ เตาฮีดอัรรุ่บูบียะฮฺ เพราะว่า ทุกคนนั้นกราบไหว้ต่ออัลลอฮฺ
เพียงพระองค์เดียว ดังนั้นแท้จริงเขาจะไม่กราบไหว้พระองค์จนกว่าจะถูกทำให้มีอยู่กับเขา ด้วยกับ อัรรุบูบียะฮฺ

และเช่นสิ่งดังกล่าว ได้ถูกรวมไว้ สำหรับ เตาฮีด อัลอัสมาอฺวัศศิฟาต
เพราะว่า มนุษย์นั้น จะไม่กราบไหว้ เว้นแต่เป็นผู้ที่รู้ว่าแท้จริงพระองค์คือ
ผู้สมควรแก่การกราบไหว้สักการะ เมื่อสำหรับเขา(ได้รู้)จาก อัลอัสมาอฺวัศศิฟาต

และสำหรับสิ่งนี้ ท่านนบีย์ อิบรอฮีม ได้กล่าวแก่ พ่อของท่านว่า:

(ﻳﺎ ﺃﺑﺖ ﻟﻢ ﺗﻌﺒﺪ ﻣﺎ ﻻ ﻳﺴﻤﻊ ﻭﻻ ﻳﺒﺼﺮ ﻭﻻ ﻳﻐﻨﻲ ﻋﻨﻚ ﺷﻴﺌﺎ)

“โอ้พ่อจ๋า ทำไมท่านจึงเคารพบูชาสิ่งที่ไม่ได้ยินและไม่เห็น และไม่ให้ประโยชน์อันใด
แก่ท่านเลย ?ً (มัรยัม:42)

ดังนั้น เตาฮีด อัลอิบาดะฮฺ(การให้เอกภาพของการกราบไหว้สักการะ)
ได้ถูกทำให้รวมอยู่กับ เตาฮีด อัรรุบูบียะฮฺ และ เตาฮีด อัลอัสมาอฺวัศศิฟาต

الشيخ محمد بن صالح العثيمين رحمه الله
فتاوى أركان الإسلام ج١ / س١٤

แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA

---------------------------------------------------------------------------
ﺱ: ﻛﻴﻒ ﻛﺎﻧﺖ "ﻻ ﺇﻟﻪ ﺇﻻ ﺍﻟﻠﻪ" ﻣﺸﺘﻤﻠﺔ ﻋﻠﻰ ﺟﻤﻴﻊ ﺃﻧﻮﺍﻉ ﺍﻟﺘﻮﺣﻴﺪ؟

ﺍﻟﺠﻮﺍﺏ: ﻫﻲ ﺗﺸﻤﻞ ﺟﻤﻴﻊ ﺃﻧﻮﺍﻉ ﺍﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﻛﻠﻬﺎ, ﺇﻣﺎ ﺑﺎﻟﺘﻀﻤﻦ, ﻭﺇﻣﺎ ﺑﺎﻻﻟﺘﺰﺍﻡ,

ﻭﺫﻟﻚ ﺃﻥ ﻗﻮﻝ ﺍﻟﻘﺎﺋﻞ "ﺃﺷﻬﺪ ﺃﻥ ﻻ ﺇﻟﻪ ﺇﻻ ﺍﻟﻠﻪ" ﻳﺘﺒﺎﺩﺭ ﺇﻟﻰ ﺍﻟﺬﻫﻦ ﺃﻥ ﺍﻟﻤﺮﺍﺩ ﺑﻬﺎ ﺗﻮﺣﻴﺪ ﺍﻟﻌﺒﺎﺩﺓ -ﺍﻟﺬﻱ ﻳﺴﻤﻰ ﺗﻮﺣﻴﺪ ﺍﻷﻟﻮﻫﻴﺔ- ﻭﻫﻮ ﻣﺘﻀﻤﻦ ﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﺍﻟﺮﺑﻮﺑﻴﺔ, ﻷﻥ ﻛﻞ ﻣﻦ ﻋﺒﺪ ﺍﻟﻠﻪ ﻭﺣﺪﻩ, ﻓﺈﻧﻪ ﻟﻦ ﻳﻌﺒﺪﻩ ﺣﺘﻰ ﻳﻜﻮﻥ ﻣﻘﺮﺍ ﻟﻪ ﺑﺎﻟﺮﺑﻮﺑﻴﺔ,

ﻭﻛﺬﻟﻚ ﻣﺘﻀﻤﻦ ﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﺍﻷﺳﻤﺎﺀ ﻭﺍﻟﺼﻔﺎﺕ, ﻷﻥ ﺍﻹﻧﺴﺎﻥ ﻻ ﻳﻌﺒﺪ ﺇﻻ ﻣﻦ ﻋﻠﻢ ﺃﻧﻪ ﻣﺴﺘﺤﻖ ﻟﻠﻌﺒﺎﺩﺓ, ﻟﻤﺎ ﻟﻪ ﻣﻦ ﺍﻷﺳﻤﺎﺀ ﻭﺍﻟﺼﻔﺎﺕ,

ﻭﻟﻬﺬﺍ ﻗﺎﻝ ﺇﺑﺮﺍﻫﻴﻢ ﻷﺑﻴﻪ: (ﻳﺎ ﺃﺑﺖ ﻟﻢ ﺗﻌﺒﺪ ﻣﺎ ﻻ ﻳﺴﻤﻊ ﻭﻻ ﻳﺒﺼﺮ ﻭﻻ ﻳﻐﻨﻲ ﻋﻨﻚ ﺷﻴﺌﺎ) (ﻣﺮﻳﻢ: ﺍﻵﻳﺔ٤٢) . ﻓﺘﻮﺣﻴﺪ ﺍﻟﻌﺒﺎﺩﺓ ﻣﺘﻀﻤﻦ ﻟﺘﻮﺣﻴﺪ ﺍﻟﺮﺑﻮﺑﻴﺔ ﻭﺗﻮﺣﻴﺪ ﺍﻷﺳﻤﺎﺀ ﻭﺍﻟﺼﻔﺎﺕ.

الشيخ محمد بن صالح العثيمين رحمه الله
فتاوى أركان الإسلام ج١ / س١٤

สตรีกับการดะอฺวะฮฺ

-สตรี กับ การดะอฺวะฮฺ ไปสู่อัลลอฮฺ ผู้ทรงยิ่งใหญ่และทรงสูงส่ง-
-เชค อับดุลอะซีซ บิน อับดุลลอฮฺ บิน บาซ-

สตรีนั้นเช่นเดียวกับบุรุษ บนพวกนาง นั้นวาญิบ ในการดะอฺวะฮฺไปสู่อัลลอฮฺ
และสั่งใช้ด้วยการทำความดี และ ห้ามปรามจากความชั่ว
และหลักฐานจากอัลกุ รอาน และสุนนะฮฺ นั้นครอบคลุมทั้งหมด เว้นแต่จะมีหลักฐาน
ที่ถูกเจาะจงด้วยกับมัน และคำกล่าวต่างๆของบรรดาผู้รู้ ที่เห็นชอบในสิ่งดังกล่าว
และจากหลักฐานของอัลกุรอานในสิ่งดังกล่าว คือ
พระดำรัสของอัลลอฮฺตะอาลา ที่ว่า

وَالْمُؤْمِنُونَ وَالْمُؤْمِنَاتُ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَاء بَعْضٍ يَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنكَرِ

“และบรรดามุมิน ชาย และบรรดามุมินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลือ
อีกบางส่วน ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ"
(อัต-เตา บะฮฺ:71)

ดังนั้นจำเป็นบนสตรี ที่จะต้องดะอฺวะฮฺไปสู่อัลลอฮฺ ด้วยการมีมารยาท ตามบทบัญญัติ
ซึ่งได้ถูกร้องขอจากบุรุษเช่นกัน และจำเป็นบนนาง พร้อมกับสิ่งดังกล่าว คือ
ความอดทน และ ความสุขุมรอบคอบ
ดังพระดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ว่า:

وَاصْبِرُواْ إِنَّ اللّهَ مَعَ الصَّابِرِينَ

ً"และจงอดทนเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอยู่กับผู้ที่อดทนทั้งหลาย”
(อัล-อันฟาล:46)
และพระดำรัสของพระองค์สำหรับท่านลุกมานผู้ปราชญ์เปรื่อง
แท้จริงเขาได้กล่าวแก่ลูกชายของเขาว่า

يَا بُنَيَّ أَقِمِ الصَّلَاةَ وَأْمُرْ بِالْمَعْرُوفِ وَانْهَ عَنِ الْمُنكَرِ وَاصْبِرْ عَلَىٰ مَا أَصَابَكَ ۖ إِنَّ ذَٰلِكَ مِنْ عَزْمِ الْأُمُورِ

“โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำความดี
และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า
แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง”
(ลุกมาน : 17)

หลังจากนั้นจำเป็นบนนางเช่นกัน ที่จะต้องเอาใจใส่ดูแล คำสั่งใช้อื่นๆ เช่น:
นางจะต้องเป็นตัวอย่างในการ ละทิ้งความใคร่ใฝ่ต่ำ ทำตนให้มีจิตใจและร่างกายที่บริสุทธิ์
และ การคลุมฮิญาบ และ ประกอบการงานที่ีดีงาม และนางต้องทำให้ห่างไหลจา
กการ อวดโฉม และการ ปะปนกับบุรุษที่ถูกห้ามจากเขา
- จนกระทั่ง นางทำให้การดะอฺวะฮฺของนาง ด้วยกับ คำพูด
และการกระทำ ออกจากทุกสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้ามไว้ บนตัวนาง


แปลโดย Alif Taopalee
พอข้อผิดพลาดแจ้งได้ที่ www.facebook.com/ALIFZA